ในหนึ่งในคำเตือนที่เจ็บปวดที่สุดเกี่ยวกับเหตุผลที่อารมณ์และเงินดิจิทัลไม่เข้ากันได้ นักเทรดได้กลายเป็นหัวข้อข่าวเกี่ยวกับการสูญเสียเงินหลายล้านดอลลาร์ในกรณีศึกษาแบบคลาสสิกของการซื้อขาย FOMO (อาการกลัวที่จะตกกระแส) หกเดือนที่แล้ว นักเทรดได้ซื้อ 1.805 ETH ในราคา 6.42 ล้านดอลลาร์เมื่อ Ethereum มีราคา 3.559 ดอลลาร์.เมื่อราคาลดลง ความตื่นตระหนกก็เกิดขึ้น เพียงสองสัปดาห์ก่อน เมื่อ ETH ประมาณ 1,333 ดอลลาร์ เขาได้ขายตำแหน่งทั้งหมดของเขา ประสบกับการขาดทุนอย่างน่าตกใจถึง 56% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.6 ล้านดอลลาร์.ซื้อคืน—ด้วยราคาที่สูงกว่าแต่เรื่องราวไม่ได้จบลงแค่นั้น หลังจากที่ ETH ฟื้นตัวเทรดเดอร์ก็กลับเข้ามา — ครั้งนี้ซื้อ 1.734 ETH ในราคา 3.11 ล้านดอลลาร์ที่ราคา 1.792 ดอลลาร์ต่อ ETH แม้ว่าตอนนี้เขาจะถือ ETH น้อยกว่าหน่อย เขาก็กลับเข้ามาในตลาดด้วยราคาที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่เขาออกไป.พฤติกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบทั่วไปในหมู่นักเทรดรายย่อย: ซื้อเมื่อราคาตลาดสูงเนื่องจากถูกปั่นราคา, ขายเมื่อราคาลดลงเพราะกลัว, แล้วซื้อคืนเมื่อราคากลับมาเพิ่มขึ้น—ทั้งหมดนี้นำไปสู่การขาดทุนสุทธิ.บทเรียนสำหรับนักลงทุนเงินดิจิทัลกรณีนี้เป็นเรื่องราวเตือนใจเกี่ยวกับการลงทุนตามอารมณ์ ความสำเร็จในตลาดเงินดิจิทัลมักต้องการความอดทน การจัดการความเสี่ยง และกลยุทธ์ที่มีวินัย—ไม่ใช่การตอบสนองอย่างหุนหันพลันแล่นต่อความผันผวนของราคา.ผู้ถือหุ้นที่มีประสบการณ์ยาวนานและนักเทรดที่มีประสบการณ์มากมายเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีแผนการทำงาน ปฏิบัติตามแผนการ และหลีกเลี่ยงจิตวิทยาของฝูงชนที่มักนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ดีในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน.
นักเทรดสูญเสียล้าน USD ในรอบ FOMO แบบคลาสสิกของ Ethereum
ในหนึ่งในคำเตือนที่เจ็บปวดที่สุดเกี่ยวกับเหตุผลที่อารมณ์และเงินดิจิทัลไม่เข้ากันได้ นักเทรดได้กลายเป็นหัวข้อข่าวเกี่ยวกับการสูญเสียเงินหลายล้านดอลลาร์ในกรณีศึกษาแบบคลาสสิกของการซื้อขาย FOMO (อาการกลัวที่จะตกกระแส) หกเดือนที่แล้ว นักเทรดได้ซื้อ 1.805 ETH ในราคา 6.42 ล้านดอลลาร์เมื่อ Ethereum มีราคา 3.559 ดอลลาร์. เมื่อราคาลดลง ความตื่นตระหนกก็เกิดขึ้น เพียงสองสัปดาห์ก่อน เมื่อ ETH ประมาณ 1,333 ดอลลาร์ เขาได้ขายตำแหน่งทั้งหมดของเขา ประสบกับการขาดทุนอย่างน่าตกใจถึง 56% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.6 ล้านดอลลาร์. ซื้อคืน—ด้วยราคาที่สูงกว่า แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงแค่นั้น หลังจากที่ ETH ฟื้นตัวเทรดเดอร์ก็กลับเข้ามา — ครั้งนี้ซื้อ 1.734 ETH ในราคา 3.11 ล้านดอลลาร์ที่ราคา 1.792 ดอลลาร์ต่อ ETH แม้ว่าตอนนี้เขาจะถือ ETH น้อยกว่าหน่อย เขาก็กลับเข้ามาในตลาดด้วยราคาที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่เขาออกไป. พฤติกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบทั่วไปในหมู่นักเทรดรายย่อย: ซื้อเมื่อราคาตลาดสูงเนื่องจากถูกปั่นราคา, ขายเมื่อราคาลดลงเพราะกลัว, แล้วซื้อคืนเมื่อราคากลับมาเพิ่มขึ้น—ทั้งหมดนี้นำไปสู่การขาดทุนสุทธิ.
บทเรียนสำหรับนักลงทุนเงินดิจิทัล กรณีนี้เป็นเรื่องราวเตือนใจเกี่ยวกับการลงทุนตามอารมณ์ ความสำเร็จในตลาดเงินดิจิทัลมักต้องการความอดทน การจัดการความเสี่ยง และกลยุทธ์ที่มีวินัย—ไม่ใช่การตอบสนองอย่างหุนหันพลันแล่นต่อความผันผวนของราคา. ผู้ถือหุ้นที่มีประสบการณ์ยาวนานและนักเทรดที่มีประสบการณ์มากมายเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีแผนการทำงาน ปฏิบัติตามแผนการ และหลีกเลี่ยงจิตวิทยาของฝูงชนที่มักนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ดีในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน.